ก่อนเริ่มต้นทำแบรนด์เสื้อ มาดูกันว่า เนื้อผ้ามีกี่แบบ
- ผ้าคอตตอน
- ผ้าลินิน
- ผ้า TK
- ผ้า TC
- ผ้า Micro Sport
- ผ้า Dry Tech
การทำแบรนด์เสื้อผ้า หรือทำธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่หลาย ๆ คนก็ใฝ่ฝัน สามารถจ้างโรงงานผลิตสินค้าให้ได้ รวมถึงหากอยากมีหน้าร้าน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่หน้าร้านใหญ่นัก หรือหากขายออนไลน์ ก็ไลฟ์สดขายในพื้นที่ที่สะดวกได้เลยเช่นกัน
การทำแบรนด์เสื้อผ้า ยังมีข้อดีกว่าการทำแบรนด์ขนมหรือของกิน ตรงที่เสื้อผ้าหากเก็บไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จะเก็บไว้ได้นาน ไม่เน่าเสีย จึงเป็นความน่าสนใจอีกเรื่องของการทำธุรกิจประเภทนี้
หลาย ๆ ท่าน ที่จะเริ่มทำ อาจจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าในการทำแบรนด์เสื้อผ้าที่เริ่มที่จุดไหนดี วันนี้เรามาเริ่มต้นที่การเข้าใจผ้าแต่ละรูปแบบ เพื่อที่จะได้เป็นไอเดียนำไปต่อยอด กับแรงบันดาลใจของตัวเอง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสไตล์ของแบรนด์กัน
เนื้อผ้ามีกี่แบบ เนื้อผ้ามีกี่ประเภท มีแบบไหนบ้าง
ผ้าคอตตอน
ผ้าคอตตอน หรือที่เรียกกันว่าผ้าฝ้าย ผลิตมาจากเส้นใยฝ้าย (Cotton) ซึ่งได้มาจากการนำเส้นใยของปุยฝ้าย มาปั่นจนเกิดเป็นเส้นด้าย แล้วจึงนำมาถักทอได้เป็นผืนผ้า
ลักษณะเด่นของผ้าคอตตอน
จะมีความนุ่ม ไม่กระด้าง สามารถระบายอากาศได้ดี ทนต่อความร้อน สามารถซักด้วยผงซักฟอก ซักรีดอุณหภูมิสูงได้ ไม่ไหม้หรือหดตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ผ้าคอตตอนสามารถแบ่งตามคุณภาพออกได้เป็นหลายแบบ โดยกระบวนการผลิตเส้นด้ายจะเป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของผ้า จะดูกันที่ความหนา การเรียงตัวของเส้นใยฝ้าย และความบริสุทธิ์ของเส้นใยฝ้าย เป็นต้น
โดยผ้าคอตตอนจะเหมาะสำหรับทำ เสื้อยืด ผ้าเช็ดตัว
ผ้าลินิน
ผ้าลินิน ผลิตมาจากเส้นใยของพืชชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “แฟลกซ์” (Flax) ซึ่งเป็นเส้นใยที่ทนทานมาก และมีความเหนียว
ลักษณะเด่นของผ้าลินิน
ลักษณะของผ้าลินินคือ สามารถระบายความร้อนได้ดี แห้งง่าย ไม่เก็บกลิ่นหรือความชื้นเอาไว้นาน มีคุณสมบัติที่คล้ายกับผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอน แต่ผ้าลินินมีความทนทานมากกว่า เนื่องจากมีเส้นใยที่เหนียวกว่า อีกทั้งยังดูดซับน้ำได้ดีกว่า ทำให้เวลาเราสวมใส่แล้วรู้สึกสบาย
เหมาะกับการทำเสื้อผ้าได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต กางเกง เดรส กระโปรง แจ็กเก็ต เบลเซอร์ เสื้อกั๊ก ชุดลำลอง ชุดทางการอื่น ๆ หรือแม้แต่ชุดนอนและเสื้อคลุม โดยเสื้อผ้าลินินมักจะถูกออกแบบให้มีความหลวมแบบพอดีตัว
นอกเหนือจากเสื้อผ้าแล้ว ผ้าลินิน ยังนิยมนำมาใช้ในการผลิตเป็นของใช้ในบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา เครื่องนอน หรือผ้าม่าน
ผ้าใยสังเคราะห์ หรือ โพลี หรือ TK
เป็นผ้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นผ้าใยสังเคราะห์ประเภท Polyester ซึ่งคือเส้นใยสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เกิดจากสารประกอบโพลีเมอร์ ผ้า TK มีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของผ้าที่เรานำมาถักทอ สามารถทำออกมาได้หลายเนื้อผ้า
โดยเบอร์ของ เส้นด้าย TK นั้นจะใช้วิธีการแบบอังกฤษ หรือแบบ cotton count ยิ่งเบอร์ด้าย ตัวเลขน้อยลง ขนาดของเส้นด้ายยิ่งใหญ่ขึ้น
ขนาดของเส้นด้าย มีผลกับความหนาของผ้า เมื่อใช้เส้นด้าย TK แต่ละเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น TK20 TK34 TK45 หรือเบอร์อื่นๆ มาถักทอเป็นผ้าโครงสร้างต่างๆ ก็จะมีผลกับความหนาและลักษณะของเนื้อผ้าที่ออกมา
ผ้า TK ที่ได้รับความนิยม เช่น ผ้า TK จูติ ผ้าที่ทำจากเส้นด้าย TK นำมาถักทอด้วยโครงสร้างจูติ หรือที่เรียกว่าโครงสร้างปิเก้ (pique) ลักษณะเนื้อผ้า ด้านหน้าผ้าจะมีรูคล้ายรังผึ้ง ซึ่งจะช่วยในการระบายอากาศ นิยมนำมาทำเสื้อโปโล ยูนิฟอร์ม
ผ้า TK ซิงเกิ้ล เป็นโครงสร้างผ้าหน้าเดียว มีลักษณะผ้าเรียบทั้งสองด้าน เนื้อบางเบา สามารถนำไปพิมพ์สกรีนต่าง ๆ นิยมนำไปตัดเสื้อยืด
ลักษณะเด่นของผ้า TK
ผ้า TK มีลักษณะเด่น คือ ราคาถูก ซักมาแล้วผ้าไม่ค่อยยับ สามารถใส่ต่อได้เลย ซักแล้วไม่หด แต่มีข้อเสียคือไม่ค่อยระบายความร้อน ผ้าไม่นุ่ม
ผ้า TC
เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของ Cotton มาช่วยเพิ่มความนุ่มให้กับ Polyester สร้างขึ้นจากการนำเส้นใย 2 ชนิดมาถักทอเข้าด้วยกัน โดยจะมีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์มากกว่า 50% ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 65% และคอตตอนประมาณ 35%
ด้วยการดึงคุณลักษณะเด่นของผ้าทั้งสองชนิดมาใช้ โพลีเอสเตอร์ช่วยให้ผ้ามีความยืดหยุ่นสูง ทนทาน ฉีกขาดยาก ผ้าสามารถรักษารูปทรงได้ดี ไม่ยืดไม่ย้วย คอตตอนเด่นในเรื่องของการระบายอากาศ ผิวสัมผัสที่นุ่มใส่สบาย และมีน้ำหนักเบา
ลักษณะเด่นของผ้า TC
ผ้า TC จะให้ความยืดหยุ่นและเป็นรอยยับยากกว่าผ้าคอตตอน ยังมีคุณสมบัติในเรื่องความนุ่ม เบา เหมาะกับการใช้ทำเสื้อผ้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน
โดยผ้า TC จะเหมาะสำหรับทำ ชุดทำงาน ชุดยูนิฟอร์ม ชุดกีฬา หรือเสื้อผ้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อยืด, เสื้อโปโล, กางเกงขายาว, กางเกงยีนส์ เป็นต้น
ผ้า Micro Sport
ผ้าไมโคร (Micro) หรือ Microfiber คือผ้าที่ผลิตจากเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ซึ่งเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ที่มีขนาดเล็ก และ มีการเพิ่มช่องว่างในเส้นใย
ลักษณะเด่นของเนื้อผ้า Micro Sport
ลักษณะเด่นของเนื้อผ้า Micro Sport คือมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ไม่เป็นขน บางเบา และระบายอากาศได้ดีกว่า polyester ทั่วไป นอกจากนี้ผ้า Micro ยังมีคุณสมบัติแห้งเร็ว ไม่ซับเหงื่อ ใส่แล้วยับยาก อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ลาย Sublimation ลงไปบนผ้าได้
ผ้า Micro นิยมนำมาใช้ทำเสื้อกีฬากันอย่างแพร่หลาย หรือที่พบเห็นได้มากเช่นกันคือเสื้อสำหรับพนักงาน เนื่องจากผ้าไม่ยับ ไม่หด สีสันสดใส ระบายอากาศได้ดีมาก และราคาที่ไม่สูงมากนัก
ผ้า Dry Tech
เป็นผ้าที่ใช้เทคโนโลยีแบบทอสองชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ทำให้ตัวผ้ามีคุณสมบัติสามารถดูดซับเหงื่อได้ดีมากขึ้น โดยตัวผ้าจะดูดซับเหงื่อจากร่างกายและส่งผ่านไปยังผิวด้านนอก ช่วยให้ผ้าระบายอากาศได้ดี ใส่สบายแม้วันที่อากาศร้อน
เป็นเทคนิคการทอผ้าแบบ 2 ชั้น Dry-Tech Technology โดยทอแบบโครงสร้างตาข่าย (Mesh back) ผ่านการผสมผสานคุณสมบัติเด่นของใยผ้าไมโครโพลีเอสเตอร์ (Micro Polyester) และผ้าฝ้ายคอตตอน (Cotton) เข้าด้วยกันทำให้มีคุณสมบัติพิเศษที่นำจุดเด่นของผ้า 2 ชนิดมารวมกัน ทำให้ผ้ามีลักษณะพื้นผิว 2 ด้านไม่เหมือนกัน
ลักษณะเด่นของผ้า Dry Tech
ผ้าด้านในทอด้วยเส้นด้าย Micro-Fibered Polyester ที่ละเอียด ทำให้เนื้อผ้า มีเนื้อสัมผัสด้านในที่เนียนนุ่ม ไม่เป็นขน บางเบา และระบายอากาศได้ดีกว่า polyester ทั่วไปสามารถดูดซับเหงื่อได้ทันทีและส่งผ่านไปยังผิวด้านนอกของผ้า
ผ้าด้านนอกผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ 100% Cotton สัมผัสนุ่มใส่สบาย ตัวผ้าแห้งไวด้วยเทคนิคการทอพิเศษแบบ Air Flow ที่ระบายอากาศจากด้านในสู่ภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ระบายอากาศได้ดี
โดยผ้า Dry Tech เหมาะสำหรับนำมาทำ เสื้อแฟชั่น เสื้อโปโล เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด โดยที่พบบ่อยที่สุด จะเป็นเสื้อโปโล