ในโลกของสิ่งทอที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงาม ความสบาย และการใช้งานที่หลากหลายกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นทุกวัน หนึ่งในเส้นใยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าทั่วโลก ก็คือ “ผ้าสแปนเด็กซ์” หรือ Spandex ซึ่งมีความโดดเด่นด้าน “ความยืดหยุ่น” ที่เส้นใยอื่นไม่สามารถเทียบเคียงได้
แม้ผ้าชนิดนี้จะถูกใช้ในวงการแฟชั่น ชุดกีฬา หรือแม้แต่ชุดชั้นในอย่างแพร่หลาย แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าผ้าสแปนเด็กซ์ มีโครงสร้างอย่างไร ผลิตจากอะไร และมีข้อจำกัดหรือวิธีดูแลรักษาอย่างไรบ้าง บทความนี้จะเปิดมุมมองเชิงลึกที่ผู้อ่านทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่าย และช่วยให้ผู้ผลิตหรือนักออกแบบเข้าใจศักยภาพของผ้าชนิดนี้ได้มากยิ่งขึ้น
ผ้าสแปนเด็กซ์ คืออะไร
ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex Fabric) เป็นผ้าที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีชื่อเรียกทางเคมีว่า โพลียูรีเทน (Polyurethane) โดยมีโครงสร้างโมเลกุลที่ยืดหยุ่นและสามารถคืนรูปได้สูง เส้นใยนี้สามารถยืดได้มากถึง 5–8 เท่าของความยาวเดิม โดยไม่เสียรูปถาวร ซึ่งต่างจากผ้าทั่วไปที่เมื่อยืดออกแล้วจะเสียทรงหรือเกิดรอยยับ
ชื่อ “Spandex” มาจากการสลับตัวอักษรของคำว่า “expands” ซึ่งหมายถึงการขยายตัว เป็นชื่อทั่วไปในสหรัฐอเมริกา ส่วนในยุโรปและประเทศอื่น ๆ อาจเรียกเส้นใยนี้ว่า “Elastane” หรือบางคนอาจรู้จักในชื่อ “Lycra” ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของบริษัท DuPont ที่เป็นผู้พัฒนาเส้นใยนี้ในยุค 1950s
ลักษณะของผ้าสแปนเด็กซ์
การเข้าใจลักษณะภายนอกและภายในของผ้าสแปนเด็กซ์จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแยกแยะผ้าชนิดนี้จากผ้าชนิดอื่น และรู้ว่าควรนำไปใช้งานแบบใด
1. ลักษณะทางกายภาพ
- ผิวเรียบ เนื้อแน่นแต่ไม่หนา: ผ้าสแปนเด็กซ์มีพื้นผิวเรียบ ไม่มีปุยหรือขน ยืดหยุ่นและแนบเนื้อได้ดี
- น้ำหนักเบา: เหมาะกับการสวมใส่ใกล้ผิวหนัง เช่น เสื้อรัดรูป ชุดว่ายน้ำ
- ยืดได้ทั้ง 2 ทิศทาง (2-way stretch) หรือ 4 ทิศทาง (4-way stretch): ขึ้นอยู่กับเทคนิคการถักทอ
2. ความรู้สึกเมื่อสัมผัส
- นุ่มมือ: ให้ความรู้สึกยืดหยุ่นได้อย่างสบาย ไม่ตึงหรือหยาบ
- ลื่นเล็กน้อย: ผ้าไม่ยึดติดกับผิวหนังขณะเคลื่อนไหว
3. ลักษณะทางเทคนิค
- มักจะผสมกับเส้นใยชนิดอื่น เช่น ฝ้าย (cotton spandex), โพลีเอสเตอร์ (polyester spandex) หรือ ไนลอน (nylon spandex) เพื่อให้ผ้ามีคุณสมบัติเสริมจากเส้นใยที่ผสม
คุณสมบัติของผ้าสแปนเด็กซ์
ผ้าสแปนเด็กซ์มีคุณสมบัติมากมายที่ทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะในเสื้อผ้าที่ต้องการความยืดหยุ่นและกระชับ
1. ยืดหยุ่นสูง (Superior Elasticity)
- ยืดได้สูงถึง 5–8 เท่า แต่ไม่เสียรูป
- เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
2. คืนตัวได้ดี (Excellent Recovery)
- ไม่เสียทรงง่าย
- เมื่อยืดแล้ว ผ้าจะสามารถกลับสู่สภาพเดิมได้เกือบสมบูรณ์
3. ทนทานต่อแรงดึงและการเสียดสี
- ไม่ขาดง่าย แม้ต้องยืดเป็นเวลานาน
- สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้งโดยที่คุณภาพไม่ลดลง
4. แห้งเร็ว ไม่ดูดซับน้ำ
- ไม่เก็บความชื้นไว้ในเส้นใย
- ลดกลิ่นอับ และเหมาะกับเสื้อผ้าที่ต้องซักบ่อย
5. ทนต่อเหงื่อและสารเคมีอ่อน ๆ
- ไม่เกิดการเปลี่ยนสีจากเหงื่อ
- ไม่ดูดซึมน้ำมันจากร่างกาย
6. สีติดทนนาน
- สามารถย้อมสีได้หลากหลายและติดแน่น
- สีไม่ซีดง่ายเมื่อซักหลายครั้ง

ข้อควรระวังในการใช้งานผ้าสแปนเด็กซ์ที่ควรรู้
แม้ว่าผ้าสแปนเด็กซ์จะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรรู้เพื่อใช้งานได้อย่างเหมาะสมและยืดอายุของผ้าให้ได้นานที่สุด
1. ไม่ควรสัมผัสความร้อนโดยตรง
- หลีกเลี่ยงเตารีดและเครื่องอบผ้า เพราะอุณหภูมิสูงจะทำให้เส้นใยเสื่อมสภาพอย่างถาวร
- หากจำเป็นต้องรีด ให้ใช้ผ้ารอง และใช้ความร้อนต่ำมาก
2. ไม่ควรซักด้วยน้ำร้อน
- ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ เพื่อรักษาความยืดหยุ่นของเส้นใย
3. หลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาว
- คลอรีนสามารถทำลายโครงสร้างของสแปนเด็กซ์ได้โดยตรง ทำให้ผ้าเปราะและขาดง่าย
4. ไม่ควรตากแดดจัด
- รังสี UV จากแสงแดดจะทำให้เส้นใยเสื่อมเร็ว และผ้าเปลี่ยนสี
5. ไม่ควรซักรวมกับของมีคมหรือตะขอ
- อาจเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยดึงบนเนื้อผ้า

ผ้าสแปนเด็กซ์ เหมาะกับเสื้อผ้าประเภทไหน
ด้วยความยืดหยุ่นและความสบายในการสวมใส่ ผ้าสแปนเด็กซ์จึงนิยมใช้กับเสื้อผ้าหลายประเภท เช่น
- ชุดกีฬา (Activewear / Sportswear)
เช่น ชุดโยคะ ชุดวิ่ง ชุดฟิตเนส เพราะผ้ามีความยืดหยุ่นสูง กระชับกับสรีระ และไม่รั้งการเคลื่อนไหว - ชุดว่ายน้ำ / ชุดดำน้ำ
เพราะทนต่อน้ำคลอรีน และคืนตัวได้ดีหลังเปียกน้ำ - ชุดชั้นใน / เสื้อชั้นในแบบไม่มีโครง
ต้องการเนื้อผ้าที่พอดีตัว ไม่รัดแน่น และไม่เสียรูปง่าย - เลกกิ้ง / กางเกงรัดรูป / เสื้อรัดกล้ามเนื้อ
ต้องการการกระชับของกล้ามเนื้อ และความสบายในการสวมใส่ต่อเนื่อง - เสื้อผ้าแฟชั่นแนบเนื้อ
เช่น เดรสเข้ารูป เสื้อครอป กางเกงทรงสกินนี่ เพราะให้รูปร่างดูดีโดยไม่เสียทรงง่าย
การดูแลรักษาผ้าสแปนเด็กซ์
เพื่อให้ผ้าสแปนเด็กซ์คงประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งาน ควรปฏิบัติตามแนวทางการดูแลดังนี้
1. การซัก
- ซักด้วยมือเป็นหลัก เพื่อถนอมเส้นใย
- หากใช้เครื่องซักผ้า ควรใส่ถุงซักผ้า
- หลีกเลี่ยงการซักกับผ้าหยาบหรือของมีคม
2. ผงซักฟอก
- ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารฟอกขาว
3. การตาก
- ตากในที่ร่ม หลีกเลี่ยงแดดจ้า
- ตากผ้าโดยวางราบ ไม่ควรแขวน หากผ้าหนักหรือเปียกมาก
4. การรีด
- หลีกเลี่ยงการรีด ถ้าจำเป็นต้องรีด ให้ใช้ไฟต่ำที่สุดและรีดผ่านผ้ารอง
5. การเก็บรักษา
- เก็บในที่เย็น ไม่ชื้น
- ไม่วางซ้อนทับกับของหนักหรือของมีคม
ผลิตเสื้อกับ “สมศรีมีเสื้อ” ดียังไง?
เมื่อคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตเสื้อผ้าคุณภาพสูง ที่สามารถรองรับงานได้ทั้งในระดับ SME และระดับแบรนด์ เราขอแนะนำ “สมศรีมีเสื้อ” โรงงานผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเสื้อผ้าครบวงจร พร้อมบริการแบบ One-Stop ที่ดูแลตั้งแต่การเลือกเนื้อผ้า ออกแบบ ลวดลาย ไปจนถึงขั้นตอนการสกรีนและปัก
ผลิตได้ทุกเนื้อผ้า ครบทุกประเภท
ไม่ว่าคุณจะต้องการผลิตเสื้อจาก ผ้าสแปนเด็กซ์, ผ้าคอตตอน, โพลีเอสเตอร์, ไดล่อน,ผ้า TK หรือเนื้อผ้าผสมพิเศษแบบใด “สมศรีมีเสื้อ” มีประสบการณ์และความชำนาญในการแนะนำและคัดสรรผ้าที่เหมาะกับสไตล์และงบประมาณของคุณ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ
รองรับทั้งงานสกรีน และงานปักทุกรูปแบบ
เราให้บริการงานตกแต่งเสื้ออย่างครบครัน ทั้ง
- สกรีนระบบซิลค์สกรีน สำหรับงานจำนวนมาก
- สกรีนดิจิทัล DTG / DTF สำหรับภาพที่ซับซ้อน สีไล่เฉด
- งานปักโลโก้ ปักชื่อ ปักลายละเอียด ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ความแม่นยำสูง
ไม่ว่าคุณต้องการงานเรียบหรู หรืองานแฟชั่นลายโดดเด่น “สมศรีมีเสื้อ” ทำได้ทุกรูปแบบ
งานคุณภาพ ราคาตรงไปตรงมา
เรายึดหลัก “งานดี ส่งตรงเวลา ไม่บวกแอบแฝง” ทุกใบเสนอราคาจะมีรายละเอียดชัดเจน ไม่มีค่าบล็อก/ค่าสกรีนซ่อนเร้น พร้อมให้ตัวอย่างงานก่อนผลิตจริง เพื่อความมั่นใจสูงสุด
ผลิตขั้นต่ำต่ำ เริ่มต้นได้แม้คุณเป็นแบรนด์ใหม่
เราตั้งใจสนับสนุนผู้ประกอบการหน้าใหม่ หรือเจ้าของแบรนด์ขนาดเล็ก จึงเปิดรับออเดอร์ ขั้นต่ำเริ่มเพียง 50 ตัวต่อแบบ พร้อมบริการออกแบบฟรีเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายที่สุด