วิธีซักเสื้อสกรีนไม่ให้ลายแตก! เทคนิคดูแลเสื้อสวยนาน

วิธีซักเสื้อสกรีนไม่ให้ลายแตก! เทคนิคดูแลเสื้อสวยนาน

เสื้อสกรีนลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานเสื้อในทุกประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้าสำหรับใส่ไปงานแฟชั่นไปจนถึงสินค้าส่งเสริมการขาย การออกแบบที่โดดเด่นและสีสันสดใสสามารถทำให้เสื้อผ้าดูโดดเด่นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การซักที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เสื้อแตกร้าวและซีดจางได้ ในบทความนี้ เราจะแนะนำทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลเสื้อสกรีนลายเพื่อให้ดูสดใหม่และใหม่ได้นานที่สุด

ทำความรู้จักกับเทคนิคการสกรีนเสื้อ

การพิมพ์สกรีน เป็นวิธีการพิมพ์ผ้าที่เก่าแก่ที่สุด และคงทนมากที่สุดวิธีหนึ่ง กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการกดหมึกผ่านบล็อคพิมพ์ ลงบนผ้าเป็นชั้นๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบที่สดใสและโดดเด่น และใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับเสื้อยืด กระเป๋าผ้า รวมถึงเครื่องแต่งกายอื่นๆ

ต่างจากการพิมพ์แบบดิจิทัล เทคนิคการพิมพ์สกรีน จะได้งานสกรีนเป็นหมึกหนาที่ติดอยู่กับเนื้อผ้าแทนที่จะซึมเข้าไปในเนื้อผ้า ช่วยให้เสื้อเชิ้ตที่พิมพ์สกรีนมีรูปลักษณ์ที่สดใสและทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

ทำไมเสื้อสกรีนถึงสีซีดจาง?

แม้ว่าการพิมพ์สกรีนจะเป็นวิธีการพิมพ์ที่ทนทานที่สุดวิธีหนึ่ง แต่เสื้อก็อาจยังมีร่องรอยการสึกหรอตามกาลเวลา การทำความเข้าใจสาเหตุของการซีดจางและแตกร้าวสามารถช่วยให้ป้องกันการซีดจางและยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นได้

  1. การได้รับความร้อน

ความร้อนเป็นสาเหตุหลักที่ทำลายลายพิมพ์สกรีน การซักซ้ำ ๆ ในน้ำร้อนหรือใช้เครื่องอบผ้าที่มีความร้อนสูงจะทำให้หมึกอ่อนตัวลง ทำให้แตกร้าวหรือลอกออกได้ง่ายขึ้น แม้แต่การรีดลงบนงานพิมพ์โดยตรงก็อาจทำให้หมึกเกิดฟองอากาศหรือละลายได้

  1. แรงเสียดทาน

รอบปั่นของเครื่องซักผ้าจะสร้างแรงเสียดทานระหว่างพื้นผิวที่พิมพ์กับเสื้อผ้าอื่น ๆ หรือผนังเครื่อง เมื่อเวลาผ่านไป หมึกจะเกาะติดเนื้อผ้าน้อยลง หากไม่พลิกเสื้อกลับด้านก่อนซัก ลายจะถูกับเสื้อผ้าอื่น ๆ โดยตรง ส่งผลให้สีซีดและแตกร้าวเร็วขึ้น

  1. สารเคมีที่รุนแรง

น้ำยาฟอกขาว น้ำยาขจัดคราบ และผงซักฟอกเข้มข้นสามารถทำลายเม็ดสีหมึกและทำลายเส้นใยผ้าได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ลวดลายซีดจางเท่านั้น แต่ยังทำให้ผ้าแตกร้าวหรือเปราะบางได้ โดยเฉพาะกับเสื้อสีเข้ม

  1. การยืดและการหดตัวของผ้า

เมื่อเสื้อหดตัวจากความร้อนหรือยืดตัวจากการสวมใส่ พื้นที่ที่พิมพ์จะบิดเบี้ยว การยืดผ้าซ้ำๆ กันอาจทำให้หมึกแตกร้าวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ได้บ่มหมึกอย่างถูกต้องระหว่างกระบวนการพิมพ์สกรีน

  1. คุณภาพการพิมพ์ไม่ดี

หากไม่ได้ทำการอบลวดลายบนผ้าด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมระหว่างการผลิต (โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 160°C สำหรับหมึกพลาสติซอล) หมึกจะยึดติดได้ไม่ดีนักและอาจเริ่มหลุดลอกออกหลังจากซักเพียงไม่กี่ครั้ง หมึกคุณภาพต่ำหรือการพิมพ์บนผ้าที่มีพื้นผิวอาจทำให้ลวดลายมีอายุการใช้งานสั้นลงได้เช่นกัน

วิธีซักเสื้อสกรีนให้สีสวยสดใส ต้องพลิกเสื้อด้านในออกก่อนซัก จะช่วยปกป้องพื้นผิวที่พิมพ์ไม่ให้ถูกับเสื้อผ้าอื่นๆ และผนังของเครื่องซักผ้า ถือเป็นขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลอย่างมากต่ออายุการใช้งาน

วิธีซักเสื้อสกรีนให้สีสวยสดใส ลายไม่แตก ทำอย่างไรบ้าง?

การซักเสื้ออย่างถูกวิธีถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการรักษาความสดใสและความสมบูรณ์ของลายพิมพ์สกรีน โดยสามารถทำตามวิธีการซักดังนี้ เพื่อช่วยถนอมลายเสื้อสกรีน

  1. พลิกเสื้อด้านในออกก่อนซัก

การทำเช่นนี้จะช่วยปกป้องพื้นผิวที่พิมพ์ไม่ให้ถูกับเสื้อผ้าอื่นๆ และผนังของเครื่องซักผ้า ถือเป็นขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลอย่างมากต่ออายุการใช้งาน

  1. ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่น (ต่ำกว่า 30°C)

ความร้อนจะทำให้หมึกอ่อนตัวลงและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น น้ำเย็นจะช่วยรักษาเนื้อผ้าและชั้นหมึก ทำให้น้ำเย็นถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการซักปกติ

  1. ใช้ผงซักฟอกชนิดอ่อนหรือแบบปลอดภัยต่อสี

เลือกผงซักฟอกที่ระบุว่า “อ่อนโยน” “สำหรับผ้าบอบบาง” หรือ “ปลอดภัยต่อสี” หลีกเลี่ยงสารฟอกขาว สารเรืองแสง หรือสารเคมีรุนแรงที่อาจทำลายหมึกได้

  1. เลือกโปรแกรมซักแบบอ่อนโยน

โปรแกรมซักผ้าแบบ “อ่อนโยน” จะช่วยลดการปั่นหมาดซึ่งช่วยลดการสึกหรอบนพื้นผิวของเสื้อ

  1. อย่าซักผ้าเยอะเกินไปในรอบเดียว

การซักผ้าจำนวนหลายชิ้นมากเกินไปพร้อมกัน จะทำให้แรงเสียดทานระหว่างเนื้อผ้าเพิ่มขึ้น ควรเว้นระยะให้เสื้อได้หายใจบ้างเพื่อลดการเสียดสีกับเสื้อผ้าชิ้นอื่น

  1. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้า ตากให้แห้งแทน
  2. รีดด้วยความระมัดระวัง

ห้ามรีดทับบริเวณที่มีการพิมพ์สกรีนโดยตรง หากจำเป็น ให้พลิกเสื้อด้านในออกหรือวางผ้าทับบนลายพิมพ์ก่อนรีด ควรตั้งอุณหภูมิให้ต่ำเสมอ

เคล็ดลับการดูแลเสื้อสกรีน

นอกจากการซักแล้ว การจัดเก็บและการจัดการอย่างถูกวิธีสามารถยืดอายุเสื้อได้อย่างมาก

1. หมุนเวียนเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า

หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อตัวเดิมบ่อยเกินไป การใช้บ่อยจะทำให้ต้องซักบ่อยขึ้น สัมผัสกับแรงเสียดทานมากขึ้น และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การหมุนเวียนเสื้อผ้าจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อได้

2. ทำความสะอาดเฉพาะจุดหากทำได้

หากสกปรกเพียงบริเวณเล็กๆ (เช่น คราบอาหาร) ให้ลองทำความสะอาดเฉพาะจุดด้วยผ้าชุบน้ำและสบู่ชนิดอ่อนแทนที่จะโยนเสื้อทั้งตัวลงในเครื่องซักผ้า

3. เก็บเสื้อไว้ในที่แห้งและเย็น

ความร้อนและความชื้นสามารถส่งผลต่อทั้งเนื้อผ้าและหมึกได้ หลีกเลี่ยงการเก็บเสื้อสกรีนในตู้เสื้อผ้าที่ร้อน แสงแดดโดยตรง หรือในถุงพลาสติกที่ปิดสนิท

4. อย่าพับทับบริเวณที่พิมพ์

การพับเสื้อเพื่อให้ลายพิมพ์เกิดรอยยับอาจทำให้ผ้าแตกตามแนวรอยพับได้ ดังนั้นควรพับในลักษณะที่หลีกเลี่ยงการพับส่วนที่พิมพ์ หรือพับไว้

5. หลีกเลี่ยงสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง

หากทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมัน ตัวทำละลาย หรือน้ำยาทำความสะอาดอุตสาหกรรม ให้หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อที่มีการพิมพ์สกรีนในบริเวณนั้น สารเหล่านี้อาจทำให้หมึกเสื่อมสลายได้อย่างรวดเร็ว

6. ซักผ้าที่คล้ายกันร่วมกัน

หลีกเลี่ยงการซักเสื้อที่มีการพิมพ์สกรีนร่วมกับสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก เช่น กางเกงยีนส์หรือผ้าขนหนู ผ้าที่หยาบกว่าจะทำให้เกิดแรงเสียดทานมากขึ้นและทำให้ลวดลายสึกกร่อนเร็วขึ้น

7. ใช้ถุงซักผ้าตาข่าย (ทางเลือก)

เพื่อการปกป้องที่มากขึ้น โดยเฉพาะในเครื่องซักผ้าฝาบนที่มีหัวปั่น คุณสามารถใส่เสื้อไว้ในถุงซักผ้าตาข่าย ถุงตาข่ายจะทำ หน้าที่จำกัดแรงเสียดทานโดยตรง

วิธีซักเสื้อสกรีน เลือกผงซักฟอกที่ระบุว่า “อ่อนโยน” “สำหรับผ้าบอบบาง” หรือ “ปลอดภัยต่อสี” หลีกเลี่ยงสารฟอกขาว สารเรืองแสง หรือสารเคมีรุนแรงที่อาจทำลายหมึกได้

เสื้อสกรีนแบบไหนทนสุด? เลือกให้ถูก ช่วยให้ลายไม่แตกง่าย

1. เนื้อผ้าคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ

เลือกเสื้อที่ทำจากผ้าฝ้าย 100% หรือผ้าฝ้ายผสม (เช่น ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ 60/40) วัสดุเหล่านี้มีพื้นผิวเรียบสำหรับการพิมพ์และเก็บหมึกได้ดีกว่าผ้าเนื้อหยาบหรือผ้าที่มีจำนวนเส้นด้ายน้อย

2. หมึกพรีเมียม

หมึกพลาสติซอล เป็นหมึกที่นิยมใช้มากที่สุดในการพิมพ์สกรีนเนื่องจากมีความทนทานและสดใส หมึกบางชนิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งมีพื้นฐานมาจากน้ำจะนุ่มกว่าเมื่อสัมผัส แต่ก็อาจไม่คงทน เว้นแต่จะพิมพ์บนผ้าที่เหมาะสม

3.คุณภาพของเสื้อยืด

เลือกผู้ผลิตเสื้อที่ใช้เสื้อยืดที่มีคุณภาพมาใช้ในการสกรีนเสื้อ เพื่อให้ความคงทนในระยะยาว

4. การอบที่เหมาะสมระหว่างการพิมพ์

หากการพิมพ์สกรีนไม่ได้รับการอบอย่างเหมาะสม (การให้ความร้อนเพื่อให้หมึกเซ็ตตัว) แม้แต่เสื้อที่ดีที่สุดก็จะไม่คงทน ควรทำงานร่วมกับช่างพิมพ์มืออาชีพที่ปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเสมอ

ทำไมต้องสกรีนเสื้อกับสมศรีมีเสื้อ

ที่สมศรี เราไม่ได้เป็นแค่ผู้สกรีนเสื้อเท่านั้น แต่เราทำให้ไอเดียของคุณเป็นจริงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์เล็ก ลูกค้าองค์กร สมศรีพร้อมจะเป็นพันธมิตรด้านการพิมพ์สกรีนที่เหมาะสม

คุณภาพจากโรงงานโดยตรงไม่มีคนกลาง

เราเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้สกรีน ควบคุมทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การจัดหาผ้าไปจนถึงการสกรีน มั่นใจได้ในคุณภาพที่สม่ำเสมอ เวลาดำเนินการที่รวดเร็ว และราคาที่เข้าถึงได้

งานพิมพ์ที่คมชัด สดใส คงทน

ช่างพิมพ์ผู้เชี่ยวชาญของเราใช้หมึกพลาสติซอล เกรดพรีเมียม ร่วมกับเทคนิคการทำให้แห้งที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่างานออกแบบของคุณยังคงโดดเด่น และไม่แตกร้าวหรือซีดจางหลังจากซักหลายครั้ง

วิธีซักเสื้อสกรีนไม่ให้ลายแตก! เทคนิคดูแลเสื้อสวยนาน

ผ้าพรีเมียมที่ตัดเย็บให้เหมาะกับการพิมพ์

เราคัดสรรผ้าที่เรียบ นุ่ม และเหมาะสำหรับการพิมพ์สกรีน ไม่ว่าคุณจะชอบผ้าฝ้าย 100% ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าพิเศษ เราก็มีตัวเลือกที่ทำให้งานพิมพ์ดูโดดเด่นและรู้สึกดีเมื่อสัมผัส